FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16

ปลดล็อกของรางวัลวันเกิด: ตั้งแต่แก็ดเจ็ตและรถในฝันไปจนถึงทริป VIPเรียนรู้เพิ่มเติม
เปิดบัญชี
เปิดบัญชีล็อกอิน
เปิดบัญชี

08 ก.ค. 2025

การจัดการความเสี่ยง

ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการคืออะไร?

ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการคืออะไร?

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคุณต้องการทำความเข้าใจบริษัทที่คุณลงทุน นั่นหมายถึงการรู้จักสิ่งต่าง ๆ เช่น โมเดลธุรกิจ รายได้ การเติบโต มูลค่าตามตลาด อัตราเงินปันผล และส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรม นอกจากนี้คุณยังต้องตระหนักถึงความเสี่ยงและอุปสรรคที่ธุรกิจอาจเผชิญระหว่างทาง การรู้จักสิ่งเหล่านี้พร้อมทั้งมาตรการที่บริษัทใช้จัดการและเตรียมพร้อมรับมือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผลกระทบจากความเสี่ยงเหล่านี้อาจส่งผลต่อราคาหุ้นและส่งผลต่อการลงทุนของคุณ ในบทความนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ

ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการคือความเสี่ยงที่บริษัทจะเกิดความสูญเสียเนื่องจากความล้มเหลวในการดำเนินงานประจำวัน เช่น จากความผิดพลาดของมนุษย์หรือระบบขัดข้อง เนื่องจากนี่เป็นความเสี่ยงทางธุรกิจที่เกิดจากภายใน มันจึงเป็นความเสี่ยงเฉพาะของแต่ละบริษัทและจัดเป็นความเสี่ยงที่ไม่เป็นระบบ

บริษัทที่มีความรับผิดชอบจะจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการด้วยการระบุสิ่งต่าง ๆ ที่อาจผิดพลาด ประเมินระดับความรุนแรงของความเสี่ยง และพัฒนาแผนกลยุทธ์เพื่อเตรียมพร้อมและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยแต่ละบริษัทจะมีระดับความยินดีและความสามารถในการรับความเสี่ยงเป็นของตัวเอง

สาเหตุของความเสี่ยงด้านปฏิบัติการมีอะไรบ้าง?

ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก โดยแต่ละบริษัทจะเผชิญความเสี่ยงเหล่านี้ในสัดส่วนที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ

ความเสี่ยงจากบุคคล

หมวดความเสี่ยงด้านปฏิบัติการนี้รวมถึงปัญหาทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับบุคคล ตัวอย่างเช่น การจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ การฝึกอบรมที่ไม่ดี ความขัดแย้งในที่ทำงาน การขาดแคลนบุคลากร อุบัติเหตุจากความประมาท หรือการทุจริตของพนักงาน ดังนั้น บริษัทต่าง ๆ จึงต้องจ้างพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและน่าเชื่อถือมาช่วยดำเนินธุรกิจ เพื่อลดความเสี่ยงประเภทนี้ บางบริษัทอาจใช้ระบบอัตโนมัติหรือเครื่องจักรแทนมนุษย์ในส่วนที่ทำได้

ความเสี่ยงจากระบบ

เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า บริษัทต่าง ๆ จะนำซอฟต์แวร์ใหม่มาใช้มากขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานประจำวันง่ายขึ้นและประหยัดขึ้น เนื่องจากระบบอัตโนมัติเหล่านี้สามารถแทนที่แรงงานมนุษย์ที่บริษัทต้องจ่ายค่าจ้าง อย่างไรก็ตาม ระบบและซอฟต์แวร์ก็ไม่สมบูรณ์แบบ แม้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตให้บริษัท แต่มันก็มาพร้อมกับปัญหาของตัวเอง ความเสี่ยงจากระบบจึงหมายถึงความเสี่ยงทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่บริษัทนำมาใช้ ระบบคอมพิวเตอร์อาจเกิดข้อบกพร่องหรือขัดข้องจนทำให้ธุรกิจหยุดชะงักได้ทั้งหมด การโจมตีทางไซเบอร์ยังสามารถสร้างความเสียหายรุนแรงให้บริษัท เช่น การถูกเรียกค่าไถ่ หรือการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลลูกค้า บริษัทต่าง ๆ จึงต้องมั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัย ทันสมัย และทำงานอย่างราบรื่นอยู่เสมอ เพราะบางครั้งแค่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยก็อาจก่อให้เกิดปัญหาขนาดใหญ่ได้

ความเสี่ยงจากกระบวนการ

หากคุณนึกภาพบริษัทเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ทำงานอย่างดี ชิ้นส่วนทั้งหมดจะทำงานและเชื่อมโยงกันในรูปแบบเฉพาะตัว บางครั้งอาจมีรอยรั่วในส่วนหนึ่ง ทำให้เชื้อเพลิงไม่สามารถเข้าสู่เครื่องยนต์ได้เพียงพอ

ทุกบริษัทมีวิธีการทำงานเป็นของตัวเอง ความเสี่ยงจากกระบวนการเกี่ยวข้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการภายในของบริษัท ซึ่งอาจเป็นอะไรก็ตั้งแต่ข้อผิดพลาดและความล่าช้าในการประมวลผลเอกสารหรือธุรกรรม ไปจนถึงความล้มเหลวในการป้องกันการทุจริต บริษัทต่าง ๆ ต้องบังคับใช้การควบคุมภายในและพึ่งพาข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการทำงาน

ความเสี่ยงจากภายนอก

ความเสี่ยงจากภายนอกเป็นสิ่งที่บริษัทควบคุมไม่ได้ ซัพพลายเออร์อาจเลิกกิจการ พายุเฮอริเคนอาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบหรือสถานการณ์ทางการเมืองอาจรบกวนการดำเนินงาน

ตัวอย่างที่บริษัทส่วนใหญ่เคยประสบคือการระบาดของโควิด-19 แม้บริษัทจะไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้ได้ แต่สามารถตระหนักรู้และเตรียมพร้อมรับมือ สิ่งนี้จะช่วยลดความเสียหายหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น

ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการมีกี่ประเภท?

หลังจากที่เราได้พูดถึงสาเหตุทั้ง 4 ประการไปแล้ว มาดูกันว่าความเสี่ยงด้านปฏิบัติการที่แบ่งย่อยออกได้เป็น 7 ประเภทหลักนั้นมีอะไรบ้าง

การทุจริตภายใน พนักงานจงใจใช้ทรัพยากรบริษัทในทางที่ผิดโดยไม่เปิดเผย การจัดการที่ดีต้องมีระบบตรวจสอบที่เหมาะสม

การทุจริตภายนอก บุคคลภายนอกพยายามขโมยทรัพยากรหรือทรัพย์สินของบริษัท เช่น แฮกเกอร์ขโมยเงิน หรือคู่แข่งขโมยทรัพย์สินทางปัญญา

ความล้มเหลวทางเทคโนโลยี ระบบซอฟต์แวร์และคอมพิวเตอร์ของบริษัทขัดข้อง

การจัดการกระบวนการ ผู้รับผิดชอบล้มเหลวในการพัฒนาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมหรือล้มเหลวในการดำเนินกลยุทธ์

ความปลอดภัยในที่ทำงาน บริษัทละเมิดกฎระเบียบความปลอดภัยหรือไม่สามารถปกป้องพนักงานจากอันตรายทางกายหรือจิตใจ

ความเสียหาย ปัจจัยภายนอกเช่นสภาพอากาศหรือภัยธรรมชาติส่งผลต่ออุปทาน การผลิต หรือความสามารถของพนักงานในการทำงาน เช่น ไฟไหม้หรือน้ำท่วมฉับพลันสามารถรบกวนห่วงโซ่อุปทานได้ พายุหิมะอาจทำให้พนักงานไม่สามารถไปทำงานได้ ตัวอย่างเช่นร้านอาหาร Waffle House ของอเมริกาที่มีแผนรับมือภัยพิบัติที่ดีมาก โดยร้านจะปิดเฉพาะในสภาวะที่เลวร้ายที่สุดเท่านั้น จนได้มีดัชนี Waffle House ที่ใช้วัดความรุนแรงของพายุ

ลูกค้า บริษัทสร้างความเสียหายให้ลูกค้าโดยการให้ข้อมูลเท็จ สินค้าที่มีข้อบกพร่อง ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้

ความเสี่ยงประเภทอื่น ๆ

มาดูกันว่าความเสี่ยงด้านปฏิบัติการแตกต่างจากความเสี่ยงทางการเงิน ความเสี่ยงทางการตลาด และความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์อย่างไร

ความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk) หมายถึงความเสี่ยงของความสูญเสียที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาด เช่น ราคาหุ้น อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยน ราคาหุ้นอาจมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับความเชื่อมั่นของตลาด นักลงทุนจะมีความรู้สึกบางอย่างมีต่อบริษัทและราคาหุ้นหรือออปชั่นของบริษัทนั้น: หุ้นมีราคาสูงเกินไปหรือถูกกว่ามูลค่าจริง? ตลาดเป็นขาขึ้นหรือขาลง? ความเสี่ยงด้านตลาดยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมเงินของบริษัท นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ราคาวัตถุดิบ และปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

ความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit risk) หมายถึงความเสี่ยงของการสูญเสียทางการเงินที่บริษัทจะเผชิญเมื่อไม่มีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้และสินเชื่อ แม้ว่าสิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการจัดการที่แย่และการขายที่ตกต่ำ แต่ความเสี่ยงทางการเงินแตกต่างจากความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ เพราะเกี่ยวข้องกับสุขภาพทางการเงินของบริษัทมากกว่าวิธีการดำเนินงานประจำวัน

ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ (Strategic risk) เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์และวัตถุประสงค์ระยะยาวของบริษัท มันเกิดจากความล้มเหลวของบริษัทในการปรับตัวให้เข้ากับกฎระเบียบใหม่ ๆ หรือการลงทุนมากเกินไปในภาคส่วนที่ในที่สุดแล้วไม่เติบโต ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์มีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงด้านปฏิบัติการในแง่ที่ว่า ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการคือความเสี่ยงของความล้มเหลวที่เกิดขึ้นขณะพยายามดำเนินกลยุทธ์นี้ โดยความผิดพลาดของมนุษย์หรือระบบในการปฏิบัติงานจะมีผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีมากกว่า

การจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ

ใครที่เป็นผู้จัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ?

ความรับผิดชอบในการจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการมักตกอยู่กับผู้บริหารระดับสูง พวกเขาต้องตระหนักถึงสิ่งต่างๆที่อาจผิดพลาดและตั้งคำถามที่ถูกต้องเพื่อระบุความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินงานประจำวันของธุรกิจ เมื่อระบุความเสี่ยงที่ต้องการให้ความสำคัญแล้ว ผู้บริหารจะกำหนดกลยุทธ์เพื่อลดและควบคุมความเสี่ยงเหล่านั้น รวมทั้งกำกับดูแลผู้จัดการระดับล่างเพื่อให้มั่นใจว่ามีการนำกลยุทธ์เหล่านั้นไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง

พวกเขาจัดการกับความเสี่ยงอย่างไร?

ทีมฝ่ายบริหารของบริษัทสามารถเลือกดำเนินการได้หลายวิธี หากพวกเขาตัดสินใจว่ายอมรับความเสี่ยงนั้นได้และไม่รู้สึกว่ามันเป็นภัยคุกคามมากนัก ก็อาจเลือกที่จะรับความเสี่ยงไว้โดยไม่ทำอะไรเพิ่มเติม แต่ยังคงติดตามตรวจสอบอยู่ หรืออาจตัดสินใจดำเนินกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อไป แต่ทำประกันกับบริษัทอื่นเพื่อโอนความเสี่ยงไปให้บุคคลที่สาม ในกรณีที่ความเสี่ยงนั้นสำคัญเกินกว่าจะมองข้าม พวกเขาอาจพัฒนาแผนกลยุทธ์เพื่อลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด หรืออาจหยุดดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงนั้นไปเลย

ระดับความเสี่ยง

ความเสี่ยงแต่ละอย่างมีโอกาสเกิดและความรุนแรงต่างกัน บริษัทจะประเมินความเสี่ยงเพื่อดูว่าโอกาสเกิดมากน้อยแค่ไหนและจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการดำเนินงานอย่างไร นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะจัดการกับความเสี่ยงนั้น หรืออาจจะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้วฝ่ายบริหารของบริษัทจะวัดระดับความเสี่ยงออกเป็น 5 ระดับ ตามความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้น ความเสี่ยงอาจอยู่ในระดับไม่น่าเกิดขึ้นเลย (เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก) ไปจนถึงระดับมีโอกาสเกิดสูงมาก (เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยหรือเกิดขึ้นในเกือบทุกกรณี) และระดับต่าง ๆ ระหว่างนั้น คุณต้องเข้าใจว่าบริษัทแต่ละแห่งมีระดับความยอมรับความเสี่ยงและวิธีการประเมินระดับความเสี่ยงเป็นของตัวเอง

ตัวอย่างความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ

ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการสามารถเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานภายในบริษัทได้ทุกอย่าง ตั้งแต่การฟอกเงินไปจนถึงความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ด้านล่างนี้คือตัวอย่างจริงจากบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ 2 กรณีศึกษา

  • เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในปี 1997 ในตอนที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงงาน Aisin ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์เพียงแห่งเดียวของโตโยต้าที่ผลิตวาล์วแบ่งแรงดันน้ำมันเบรก ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในรถยนต์ของพวกเขา โตโยต้าต้องหยุดสายการผลิตหลายวันเนื่องจากโรงงาน Aisin ไม่สามารถส่งชิ้นส่วนได้อีกต่อไป การพึ่งพาซัพพลายเออร์เพียงรายเดียวนี้ทำให้โตโยต้าอ่อนแอ จากเหตุการณ์นี้ฝ่ายบริหารของโตโยต้าได้บทเรียนสำคัญว่าต้องกระจายแหล่งห่วงโซ่อุปทานและเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตได้ดีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

  • ตัวอย่างที่สองเกิดขึ้นในปี 2024 เมื่อบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ CrowdStrike ได้ออกอัปเดตซอฟต์แวร์ที่มีข้อบกพร่อง ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ Microsoft Windows กว่า 8.5 ล้านเครื่องทั่วโลกขัดข้อง เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความปั่นป่วนให้แทบทุกภาคส่วนของสังคม ตั้งแต่สนามบิน โรงพยาบาล ธนาคาร สื่อสารมวลชน และอีกมากมาย ก่อให้เกิดความเสียหายสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ หุ้นของ CrowdStrike ร่วงหนักและใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะฟื้นตัว และชื่อเสียงของบริษัทก็ได้รับความเสียหาย กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ที่พึ่งพาเทคโนโลยีเดียวในการดำเนินธุรกิจมีความอ่อนแอและเสี่ยงเกินไปหากเกิดปัญหากับเทคโนโลยีนั้น นอกจากนี้ยังหมายความว่า CrowdStrike ต้องเพิ่มการทดสอบและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ลักษณะนี้ให้ดีขึ้น

ตัวอย่างความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ

สรุป

ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการมีอยู่ตลอดเวลาและพัฒนาตลอดในขณะที่บริษัทดำเนินกลยุทธ์ ไม่มีวันที่เราจะสามารถกำจัดความเสี่ยงออกไปได้ทั้งหมด ดังนั้นธุรกิจจึงต้องพัฒนาแผนเพื่อลดความเสี่ยงและตัดสินใจว่าจะรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน สำหรับนักลงทุน การรู้ว่าอะไรอาจผิดพลาดในการดำเนินงานประจำวันของบริษัทที่คุณลงทุน และบริษัทเตรียมพร้อมรับมืออย่างไรนั้นสำคัญมาก บริษัทที่มีการจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการที่ดีจะสามารถป้องกันความสูญเสียจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ดีกว่า และพัฒนากระบวนการภายในที่แข็งแกร่งและสามารถฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับการลงทุนของคุณ

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก

FBS ณ สื่อสังคมออนไลน์

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon

ติดต่อเรา

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
Google Play

การซื้อขาย

บริษัท

เกี่ยวกับ FBS

ผลกระทบต่อสังคมของเรา

เอกสารทางกฎหมาย

ข่าวเกี่ยวกับบริษัท

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้

ศูนย์ช่วยเหลือ

โปรแกรมพันธมิตร

เว็บไซต์นี้ดำเนินการโดย FBS Markets Inc. หมายเลขจดทะเบียน 000001317 ซึ่ง FBS Markets Inc. ได้รับการจดทะเบียนโดย Financial Services Commission ภายใต้พระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ฯ 2021 (Securities Industry Act 2021) ใบอนุญาตเลขที่ 000102/31 ที่อยู่สำนักงาน: 9725, Fabers Road Extension, Unit 1, Belize City, Belize

โดย FBS Markets Inc. ไม่ได้ให้บริการทางการเงินแก่ผู้อยู่อาศัยในเขตอำนาจศาลบางแห่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล, สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน, เมียนมาร์

ธุรกรรมการชำระเงินได้รับการจัดการโดย HDC Technologies Ltd.; Registration No. HE 370778; Legal address: Arch. Makariou III & Vyronos, P. Lordos Center, Block B, Office 203, Limassol, Cyprus ที่อยู่เพิ่มเติม: Office 267, Irene Court, Corner Rigenas and 28th October street, Agia Triada, 3035, Limassol, Cyprus

เบอร์ติดต่อ: +357 22 010970 เบอร์ติดต่อเพิ่มเติม: +501 611 0594

สำหรับความร่วมมือ กรุณาติดต่อเราผ่าน [email protected]

คำเตือนเรื่องความเสี่ยง: ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขาย คุณควรเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินและการซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้นอย่างถ่องแท้ และคุณควรตระหนักถึงระดับประสบการณ์ของตนเอง

การคัดลอก การทำสำเนา การเผยแพร่ รวมถึงแหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของเนื้อหาใดๆ จากเว็บไซต์นี้สามารถดำเนินการได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การชี้แนะ หรือการชักชวนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น