
FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16
07 ก.ค. 2025
พื้นฐาน
กองทุนรวมคือบริษัทที่รวบรวมเงินจากนักลงทุนหลายคนแล้วนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทเพื่อกระจายความเสี่ยง กองทุนรวมเหล่านี้จดทะเบียนกับสำนักงาน ก.ล.ต. และบริหารจัดการโดยผู้จัดการเงินมืออาชีพที่ตัดสินใจเลือกซื้อและขายสินทรัพย์ต่าง ๆ
วิธีการทำงานของกองทุนรวม
เมื่อคุณลงทุนในกองทุนรวม คุณจะให้เงินแก่กองทุนเพื่อให้กองทุนไปลงทุนแทนคุณ กองทุนจะจัดทำพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายประกอบด้วยสินทรัพย์หลายประเภท เช่น หุ้น พันธ บัตร และหลักทรัพย์อื่น ๆ เมื่อผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนก็เหมือนกับการซื้อสิทธิ์เป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของพอร์ตลงทุน ราคาหน่วยลงทุนของกองทุนรวม หรือที่เรียกว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (Net Asset Value: NAV) จะถูกคำนวณ ณ สิ้นวันทำการแต่ละวัน โดยคำนวณจากมูลค่ารวมของสินทรัพย์ในกองทุน (หุ้น พันธบัตร เงินสด และหลักทรัพย์อื่น ๆ) ลบด้วยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ (ค่าใช้จ่ายและค่าบริหาร) แล้วนำมาหารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุน
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) = (มูลค่าสินทรัพย์ - ค่าใช้จ่าย) ÷ จำนวนหน่วยลงทุน
วิธีการลงทุนในกองทุนรวม
กองทุนรวมไม่ได้ซื้อขายระหว่างเทรดเดอร์บนตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้นและออปชัน แต่จะซื้อขายโดยตรงผ่านกองทุน ซึ่งสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ของกองทุน หรือผ่านโบรกเกอร์และที่ปรึกษาการลงทุน คุณสามารถซื้อขายกองทุนรวมได้ในราคาค่า NAV รายวันใหม่
กองทุนรวมมีหลายประเภท ซึ่งดีเพราะเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละคนรับได้จะแตกต่างกัน
กองทุนหุ้น หรือที่เรียกว่ากองทุนหุ้นสามัญ ลงทุนในหุ้นของสหรัฐฯ หรือหุ้นต่างประเทศ และมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของกองทุน กองทุนเหล่านี้อาจเน้นลงทุนในบริษัทขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ และอาจเน้นการเติบโต รายได้ หรือมูลค่า ตามกลยุทธ์และหุ้นที่ถือ กองทุนเหล่านี้จึงมีความหลากหลายและความเสี่ยงแตกต่างกัน หากหุ้นที่ลงทุนมีราคาขึ้น ค่าของกองทุนก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน และในทางกลับกัน ก็เป็นจริงเช่นกัน
กองทุนตราสารหนี้ หรือที่รู้จักกันในชื่อกองทุนพันธบัตร มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงและสร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง กองทุนเหล่านี้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรบริษัทที่จ่ายดอกเบี้ยแบบคงที่และเป็นประจำ กองทุนบางกองเน้นพันธบัตรประเภทใดประเภทหนึ่ง ขณะที่บางกองลงทุนผสมกัน กองทุนเหล่านี้จะมีความเสี่ยง ผลตอบแทน และความผันผวนที่แตกต่างกัน นักลงทุนจึงสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนของตนได้
กองทุนกำหนดเป้าหมาย ถูกออกแบบมาเพื่อวางแผนการเกษียณอายุ กองทุนเหล่านี้ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้นและพันธบัตร เมื่อเวลาผ่านไป กองทุนจะปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม ยิ่งใกล้ปีเกษียณที่กำหนดมากขึ้น จะยิ่งเปลี่ยนจากการรับความเสี่ยงไปสู่ความมั่นคงมากขึ้น ซึ่งหมายถึงการลดกลยุทธ์เน้นการเติบโต และเพิ่มการลงทุนในพันธบัตรและเงินสด เพื่อปกป้องพอร์ตจากความผันผวนของตลาดในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะกับการรับความเสี่ยงสูง
กองทุนตลาดเงิน มักเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย มีความเสี่ยงต่ำ และระยะสั้น ข้อเสียคือผลตอบแทนจะไม่สูงนัก นั่นคือเหตุผลที่นักลงทุนมักนำเงินไปลงทุนในกองทุนเหล่านี้แทนการฝากในบัญชีออมทรัพย์แบบปกติหรือเก็บเป็นเงินสด บ่อยครั้งที่ถูกใช้เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวสำหรับเก็บเงินที่ยังไม่ได้ใช้งาน แม้ว่ากองทุนเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์เล็กน้อย แต่ไม่ได้รับประกันโดย Federal Deposit Insurance Corp (FDIC) ทำให้มีความเสี่ยงมากกว่า
กองทุนดัชนี เป็นกองทุนที่พบได้บ่อย และถูกออกแบบมาเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของดัชนีเฉพาะ เช่น S&P 500, ดัชนี Dow Jones Industrial Average หรือ NASDAQ ต่างจากกองทุนที่มีการจัดการแบบแอ็กทีฟ กองทุนดัชนีจะจัดการแบบพาสซีฟ เพราะต้องการเลียนแบบผลการดำเนินงานของดัชนี แทนที่จะพยายามทำผลตอบแทนให้ดีกว่า จึงทำให้การจัดการง่ายกว่าและค่าธรรมเนียมต่ำกว่า อีกทั้งในระยะยาวมักจะทำผลตอบแทนได้ดีกว่ากองทุนที่มีการจัดการแบบแอ็กทีฟ ทำให้กองทุนดัชนีเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุน
กองทุนรวมเป็นทางเลือกที่สะดวกและค่อนข้างง่ายสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาศึกษาหุ้นหรือจัดการพอร์ตการลงทุนด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด กองทุนรวมมีราคาที่เข้าถึงได้ ช่วยกระจายความเสี่ยง และสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟได้
การกระจายความเสี่ยงและการบริหารโดยมืออาชีพ
เนื่องจากกองทุนรวมมีผู้จัดการมืออาชีพคอยดูแล คุณจึงสามารถวางใจได้ เงินของคุณจะถูกบริหารโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และเครื่องมือเทคโนโลยีที่ช่วยให้พวกเขาวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจอย่างมีข้อมูล เพื่อกระจายการลงทุนในหุ้น พันธบัตร และตราสารอื่น ๆ ในพอร์ตของคุณ การกระจายการลงทุนหมายถึงการป้องกันความเสี่ยงได้มากขึ้น ยิ่งคุณกระจายการลงทุนมากเท่าไร การลงทุนของคุณก็จะมีความสามารถในการทนต่อการลดลงของหุ้นหรือสินทรัพย์บางประเภทได้มากขึ้นเท่านั้น หากหุ้นบางตัวลดลงแต่พันธบัตรเพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นของอย่างใดอย่างหนึ่งก็สามารถชดเชยการลดลงของอีกอย่างหนึ่งได้ กองทุนรวมยังจะให้ข้อมูลอัปเดตผลการดำเนินงานเป็นประจำ เพื่อให้คุณรับทราบสถานการณ์และโปร่งใสในการบริหารเงินของคุณ
ราคาที่เข้าถึงได้และสภาพคล่อง
การลงทุนขั้นต่ำที่ต้องใช้ในบางกรณีอาจต่ำกว่า $100 ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนเงินจำนวนมากเท่าที่ปกติต้องใช้เพื่อให้ได้การกระจายการลงทุนแบบเดียวกันด้วยตัวเอง มันเหมือนกับการไปที่ร้านพิซซ่าแล้วซื้อแค่ชิ้นเดียวแทนที่จะซื้อทั้งถาด และคุณสามารถเลือกได้เองว่าจะเอาชิ้นเล็กหรือใหญ่แค่ไหน กองทุนรวมยังมีสภาพคล่องสูง เพราะคุณสามารถซื้อหรือขายหน่วยลงทุนในราคาค่า NAV ของกองทุนได้ในทุกวันทำการ
คุณอาจมีต้นทุนค่าธรรมเนียมน้อยกว่าการเทรดด้วยตัวเอง เพราะกองทุนรวมซื้อขายในปริมาณมากครั้งละมาก ๆ ทำให้เป็นวิธีลงทุนที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการบริหารกองทุน อาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุนของคุณได้
การสร้างรายได้
กองทุนรวมสามารถสร้างรายได้ในหลายรูปแบบ กองทุนรวมสามารถรับเงินปันผลประจำจากหุ้นหรือดอกเบี้ยจากพันธบัตร และแจกจ่ายเงินเหล่านี้ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นเงินปันผล หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถเลือกที่จะเก็บเงินปันผลไว้ หรือจะนำเงินนั้นไปลงทุนซ้ำโดยซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มในกองทุนก็ได้ กองทุนรวมยังสามารถสร้างกำไรจากการขายหลักทรัพย์ที่ได้กำไร และแจกจ่ายกำไรส่วนนี้ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในตอนท้ายปี หลังหักขาดทุนจากการขายหลักทรัพย์แล้ว สุดท้าย หากมูลค่าพอร์ตการลงทุนของกองทุนเพิ่มขึ้นหลังหักค่าใช้จ่าย ราคาค่า NAV ของหน่วยลงทุนก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ผู้ถือหน่วยลงทุนก็จะมีหน่วยลงทุนที่มีมูลค่าสูงกว่าราคาที่พวกเขาจ่ายไป
รู้จักกองทุนของคุณ
เพื่อหากองทุนรวมที่ตรงกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ ควรใช้เวลาศึกษาข้อมูลเล็กน้อยก่อน คุณสามารถหาการจัดอันดับกองทุนจากองค์กรอิสระภายนอกได้ทางออนไลน์
กองทุนรวมยังมีหนังสือชี้ชวนและรายงานผู้ถือหุ้นให้ดาวน์โหลดฟรีได้บนเว็บไซต์ของกองทุนและเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC)
คุณสามารถอ่านเอกสารเหล่านี้เพื่อเข้าใจอย่างชัดเจนว่ากองทุนทำงานอย่างไร และยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย รวมถึงวิธีการบริหารและการลงทุนเงินของคุณ หากมีสิ่งใดที่คุณไม่เข้าใจ ควรถามกองทุน เพราะคุณกำลังฝากเงินให้ผู้อื่นดูแล จึงสำคัญที่ต้องเข้าใจว่าเงินของคุณถูกจัดการอย่างไร
ค่าธรรมเนียมและภาษี
การลงทุนในกองทุนรวมไม่ได้ฟรี คุณควรเข้าใจให้ชัดเจนว่าค่าใช้จ่ายเท่าไร เช่น กองทุนบางกองจะคิดค่าธรรมเนียมเมื่อคุณซื้อหรือขายหน่วยลงทุน หรือขายก่อนเวลาที่กำหนด นอกจากนี้คุณอาจต้องจ่ายค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารกองทุน ซึ่งบางครั้งจะถูกหักจากราคาค่า NAV ของกองทุน ดังนั้น แม้ว่าคุณจะไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมเหล่านี้โดยตรง แต่ก็ยังมีผลกระทบต่อผลตอบแทนของคุณในระยะยาว ค่าธรรมเนียมอาจดูเหมือนไม่สำคัญ แต่สามารถส่งผลเสียต่อการลงทุนของคุณในระยะยาวอย่างมาก กองทุนรวมยังส่งต่อภาษีจากเงินปันผลและกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน กองทุนบางกองมีความเป็นมิตรกับภาษีมากกว่ากองทุนอื่น ๆ จึงควรตรวจสอบเรื่องภาษีก่อนลงทุนด้วย
ความเสี่ยง
การลงทุนในกองทุนรวมถือว่าปลอดภัยและง่ายกว่าการเทรดแบบอื่น ๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงของตัวเองอยู่ ค่าธรรมเนียมและภาษีอาจส่งผลต่อผลตอบแทนของคุณในระยะยาว จึงควรศึกษาข้อมูลเหล่านี้ให้ดี อีกเรื่องที่ต้องจำไว้คือ กองทุนรวมไม่ได้รับการประกันโดย FDIC ซึ่งหมายความว่าเงินลงทุนของคุณไม่ได้รับการคุ้มครองจากความผันผวนของตลาดหรือตัวการบริหารกองทุนที่ไม่ดี หากหุ้นที่กองทุนถืออยู่ราคาลดลง การลงทุนของคุณก็จะลดลงด้วย ในกรณีวิกฤตการเงินหรือภาวะตลาดตกต่ำรุนแรง บางกองทุนอาจระงับการถอนเงินชั่วคราวเพื่อปกป้องกองทุนและนักลงทุน สิ่งนี้สามารถจํากัดความเร็วที่คุณสามารถนําเงินออกได้ การบริหารจัดการก็มีความสําคัญเช่นกัน และการลงทุนของคุณอาจไร้ค่าอย่างรวดเร็ว หากกองทุนมีการจัดการที่ไม่ดี เงินปันผลและการจ่ายดอกเบี้ยไม่ได้ถูกกําหนดไว้และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะตลาด สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งรายได้แบบพาสซีฟที่ดีสามารถกลายเป็นแหล่งรายได้ที่ดีได้ แต่ก็สามารถร่อยหรอไปได้เช่นกัน
โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก