FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16

ปลดล็อกของรางวัลวันเกิด: ตั้งแต่แก็ดเจ็ตและรถในฝันไปจนถึงทริป VIPเรียนรู้เพิ่มเติม
เปิดบัญชี
เปิดบัญชีล็อกอิน
เปิดบัญชี

21 ก.ค. 2025

พื้นฐาน

ทำความเข้าใจกับออปชัน Out of The Money (OTM)

ทำความเข้าใจกับออปชัน Out of The Money (OTM)

การซื้อขายหุ้นนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา ถ้าคุณสนใจหุ้นตัวหนึ่ง คุณก็ซื้อและขายหุ้นในราคาตลาดปัจจุบัน และหวังว่าจะได้กำไร ถ้าคุณซื้อหุ้นสิบหุ้น คุณก็เป็นเจ้าของหุ้นสิบหุ้น การซื้อขายแบบนี้ยังหมายความว่า การจะทำเงินได้มากอาจต้องใช้เวลา เพราะราคาหุ้นต้องเพิ่มขึ้นมาก การลงทุนถึงจะมีกำไรสูง แต่กับออปชัน คุณสามารถทำเงินได้มากขึ้น แม้ราคาจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย และใช้เงินลงทุนน้อยกว่า

ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจพื้นฐานว่า ออปชันคืออะไร จากนั้นเราค่อยมาดูกันว่า "Out of The Money" หมายถึงอะไร

ออปชันคืออะไร?

เมื่อคุณซื้อออปชัน คุณกำลังจ่ายเงินให้กับเทรดเดอร์อีกคนหนึ่ง เพื่อแลกกับสิทธิ์ แต่ไม่ใช่ข้อผูกพัน ในการซื้อหุ้นจำนวนหนึ่งจากเขา ในราคาที่กำหนดไว้ ซึ่งเรียกว่า “ราคาที่ใช้สิทธิ์” (strike price) และต้องซื้อภายในวันหมดอายุที่กำหนดไว้

คุณสามารถมองว่าออปชันเป็นเหมือนสัญญา สัญญาออปชันแต่ละฉบับจะครอบคลุมหุ้น 100 หุ้น ดังนั้น ถ้าคุณซื้อออปชันที่มีราคา 1 ดอลลาร์ต่อหุ้น สัญญานั้นจะมีราคาทั้งหมด 100 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่อาจมี ออปชันสามารถใช้กับหุ้นได้ แต่ก็สามารถใช้กับพันธบัตรหรือสกุลเงินได้เช่นกัน ออปชันมีอยู่ 2 ประเภท:

Call Option (สิทธิ์ในการซื้อ) ให้คุณมีสิทธิ์ในการซื้อสินทรัพย์ในราคาที่กำหนด ออปชันนี้ถือว่าอยู่ในสถานะ Out of The Money ตราบใดที่ราคาตลาดของสินทรัพย์ยังต่ำกว่าราคาที่ใช้สิทธิ์

Put Option (สิทธิ์ในการขาย) ให้คุณมีสิทธิ์ในการขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนด ออปชันนี้ถือว่าอยู่ในสถานะ Out of The Money ตราบใดที่ราคาตลาดของสินทรัพย์ยังสูงกว่าราคาที่ใช้สิทธิ์

ออปชัน Out of The Money (OTM), At The Money (ATM) และ In The Money (ITM)

ออปชัน Out of The Money (OTM), At The Money (ATM) และ In The Money (ITM)

หนึ่งในคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับออปชันคือคำว่า “Moneyness” มีอยู่ 3 รูปแบบในการอธิบาย Moneyness:

  • ออปชัน Out of The Money (OTM) คือออปชันของสินทรัพย์ที่ยังไม่ถึงราคาที่ใช้สิทธิ์ ออปชันเหล่านี้ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง (intrinsic value) และประกอบด้วยมูลค่าภายนอก (extrinsic value) เท่านั้น ออปชันประเภทนี้ยังไม่มีกำไร จึงมีความเสี่ยงมากกว่า และราคาถูกกว่าออปชันประเภท ATM และ ITM ที่มีวันหมดอายุเดียวกัน ยิ่งเหลือเวลามากก่อนหมดอายุ ราคาของออปชันก็จะยิ่งแพงขึ้น เพราะเวลามากขึ้น หมายถึงมีโอกาสมากขึ้นที่ราคาหุ้นจะไปถึงราคาที่ใช้สิทธิ์ หากออปชันหมดอายุไปโดยยังอยู่ในสถานะ OTM สัญญานั้นจะไม่มีมูลค่า และผู้ซื้อจะขาดทุนเท่ากับเบี้ยประกัน (premium) ที่จ่ายไป

  • ออปชัน At The Money (ATM) คือออปชันที่ ราคาที่ใช้สิทธิ์เท่ากับราคาตลาดปัจจุบัน ออปชันแบบนี้เกือบจะมีมูลค่าที่แท้จริง และใกล้จะมีกำไร ถ้าราคาหุ้นเคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการ ราคาหุ้นจะต้องขยับมากพอเพื่อให้คุ้มกับเบี้ยประกันที่คุณจ่ายไป

  • ออปชัน In The Money (ITM) คือออปชันที่ ราคาของสินทรัพย์ได้ผ่านราคาที่ใช้สิทธิ์ไปแล้ว ออปชันแบบนี้มีทั้งมูลค่าที่แท้จริงและมูลค่าภายนอก จึงมีราคาสูงกว่า ออปชัน ITM จะมีกำไรเมื่อหมดอายุ หากส่วนที่อยู่ในเงินมีค่ามากกว่าที่คุณจ่ายเป็นเบี้ยประกัน

ตัวอย่างของออปชัน Out of The Money

เจนเป็นเจ้าของหุ้นของบริษัท X ราคาหุ้นตอนนี้อยู่ที่ $50 แต่คุณคิดว่าราคาจะขึ้นไปเกิน $55 ภายในสิ้นสัปดาห์ แต่เจนไม่คิดว่าราคาจะไปถึงจุดนั้นได้ภายในเวลานั้น คุณจึงขอสิทธิ์จากเธอในการซื้อหุ้นของเธอในราคา $55 เมื่อถึงสิ้นสัปดาห์ ไม่ว่าราคาตลาดตอนนั้นจะเป็นเท่าไร เจนยินดีให้สิทธิ์นั้นกับคุณ แต่ไม่ใช่ฟรี ๆ เพราะเธอต้องรับความเสี่ยง เธอจึงขายออปชันให้คุณในราคา $1 ต่อหุ้น รวมทั้งหมดเป็น $100 ออปชันแบบ Call นี้ถือว่าเป็นแบบ Out of The Money เพราะราคาหุ้นในตอนนี้ต่ำกว่าราคาที่ใช้สิทธิ์ที่ $55

ตอนนี้มี 3 ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้

คุณได้กำไร สมมุติว่าตอนหมดอายุ ราคาหุ้นอยู่ที่ $60 ออปชัน Out of The Money ของคุณ ตอนนี้กลายเป็น In The Money และคุณมีสิทธิ์ซื้อหุ้นจากเจนในราคา $55 ซึ่งถือเป็นส่วนลด $5 จากราคาตลาด $60 เจ๋งไปเลย! คุณจ่ายไป $1 ต่อหุ้น ดังนั้นคุณมีกำไร $4 ต่อหุ้น เพราะออปชันครอบคลุม 100 หุ้น กำไรรวมคือ $500 - $100 = $400 ถ้าคุณใช้เงิน $100 นั้นไปซื้อหุ้นจริง 2 หุ้น กำไรของคุณจะอยู่ที่แค่ $20 เท่านั้น

คุณคุ้มทุน (ไม่กำไร ไม่ขาดทุน) ถ้าราคาหุ้นอยู่ที่ $56 ตอนหมดอายุ นั่นคือคุณได้กำไร $1 ต่อหุ้น หรือรวมทั้งหมดเป็น $100 แต่คุณก็จ่ายเงินสำหรับออปชันไปแล้ว $100 ดังนั้นคุณจึงทําเงินได้ $0 ดังนั้นคุณไม่ได้กำไรหรือขาดทุนเช่นกัน

คุณขาดทุน ถ้าราคาหุ้นตอนหมดอายุยังอยู่ต่ำกว่า $55 ออปชันของคุณจะหมดอายุในสถานะ OTM และไม่มีมูลค่า มันไม่มีเหตุผลที่จะใช้สิทธิ์ในการซื้อหุ้นในราคา $55 เมื่อราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่านั้น ผลก็คือคุณเสียเงินค่าเบี้ยประกันทั้งหมด $100 แต่ถ้าราคาขยับขึ้นเล็กน้อย เช่น ไปอยู่ที่ $55.5 คุณก็ได้กำไร $50 เนื่องจากคุณจ่ายเงิน $100 สำหรับออปชันนี้ นั่นแปลว่าเกิดการขาดทุน $50: $50 - $100 = -$50 ในกรณีนี้คุณขาดทุนบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

ตัวอย่างข้างต้นเป็นออปชัน Call ที่มีราคาใช้สิทธิ์สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน หากเป็นออปชัน Put คุณจะต้องการให้ราคาหุ้นลดลงต่ำกว่าราคาที่ใช้สิทธิ์ภายในวันหมดอายุ ออปชัน Put ถือว่าอยู่ในสถานะ Out of The Money ตราบใดที่ราคาหุ้นยังสูงกว่าราคาที่ใช้สิทธิ์

มูลค่าภายนอก

มูลค่าภายนอก

ถ้าออปชันอยู่ในสถานะ ITM อยู่ที่ $10 ก็แสดงว่ามีมูลค่าที่แท้จริงอยู่ $10 ในทางตรงกันข้าม ออปชัน OTM จะมีเฉพาะมูลค่าภายนอกเท่านั้น เพราะราคาสินทรัพย์ยังต่ำกว่าราคาที่ใช้สิทธิ์ ราคาของมูลค่าภายนอกจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่หลัก ๆ คือ ความผันผวนโดยนัย (implied volatility) และ ระยะเวลาก่อนหมดอายุ

หุ้นที่มีแนวโน้มผันผวนมาก จะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่แรงกว่า ซึ่งหมายถึงมีโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น ดังนั้น ออปชันจะมีราคาสูงขึ้นเมื่อหุ้นหรือทั้งตลาดอยู่ในช่วงที่มีความผันผวนสูง มูลค่าภายนอกของออปชันก็อาจมีราคาสูงขึ้นในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น การประกาศผลประกอบการ หรือการเปิดเผยข้อมูลตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้มักก่อให้เกิดความผันผวนในตลาด

ระยะเวลาก่อนหมดอายุก็มีผลต่อราคาเช่นกัน ออปชันจะมีมูลค่าสูงกว่าหากยังเหลือเวลามากก่อนหมดอายุ เพราะเวลาที่มากขึ้น หมายถึงมีโอกาสมากขึ้นที่ออปชันจะกลายเป็น ITM

ข้อดีของออปชัน OTM

แล้วทำไมคุณถึงควรจ่ายเงินซื้อออปชัน แทนที่จะซื้อหรือขายหุ้นโดยตรง? ถ้าคุณซื้อหุ้น 1 หุ้นในราคา $50 แล้วขายเมื่อราคาขึ้น 10% ไปที่ $55 คุณจะได้กำไร $5 จำนวนเงินนั้นดีกว่าตอนที่คุณเริ่มต้น แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบมากนักในชีวิตของคุณ คุณจะต้องซื้อหุ้นจำนวนมากขึ้นอีกมากจึงจะมีผลกระทบอย่างแท้จริงต่อการเงินของคุณ เช่น ลงทุน $500 ดอลลาร์เพื่อให้ได้กำไร $50 หรือ $5,000 เพื่อให้ได้กำไร $500 ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินสดสำรอง $5,000 อยู่ในมือ การใช้ออปชัน OTM เป็นวิธีที่ถูกกว่าที่จะเลเวอเรจและเพิ่มกำไรของคุณโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของหุ้นจริง ๆ

คุณไม่จำเป็นต้องรอให้ออปชัน OTM กลายเป็น ITM ถึงจะได้กำไร ยิ่งออปชันเข้าใกล้สถานะ ITM ราคาของออปชันก็จะสูงขึ้น ดังนั้น คุณสามารถทำกำไรได้โดยการขายเบี้ยประกันของออปชันนั้นให้กับคนซื้อรายอื่น ในราคาที่สูงกว่าที่คุณซื้อมา

ออปชันให้สิทธิ์คุณ แต่ไม่ใช่ข้อผูกมัดให้คุณต้องซื้อหุ้น ในแง่นี้ คุณจะได้รับการปกป้องมากขึ้นหากราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนัก สมมุติว่าคุณซื้อหุ้น 100 หุ้น ในราคา $50 ต่อหุ้น แต่ราคาหุ้นตอนนี้ตกลงมาเหลือ $25 เงินลงทุนเดิม $5,000 ตอนนี้มีค่าแค่ $2,500 แต่ถ้าคุณจ่าย $200 เพื่อซื้อออปชัน แสดงว่าคุณจะเสียสูงสุดแค่ $200 เท่านั้น ออปชันจึงน่าสนใจ เพราะถ้าราคาหุ้นตก คุณจะเสียเงินแค่เท่าที่จ่ายซื้อออปชัน เพราะคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นจริง โดยเฉพาะออปชันแบบ OTM จะดึงดูดเทรดเดอร์ที่ต้องการวิธีถูก ๆ ในการป้องกันความเสี่ยงจากราคาหุ้นตกหรือวิกฤติระยะสั้น

ข้อเสียของออปชัน OTM

ออปชัน OTM จะถูกกว่าออปชัน ITM และ ATM เพราะจะต้องมีการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ใหญ่กว่าและใช้เวลานานกว่าที่จะถึงราคาที่ใช้สิทธิ์และมีกำไร ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงสูงกว่า ถ้าออปชันหมดอายุในสถานะ OTM เงินที่จ่ายไปก็จะสูญเสียไปเลย คุณไม่สามารถรอให้ราคาหุ้นฟื้นตัวเหมือนตอนที่คุณถือหุ้นจริงได้

เวลาจึงมีความสำคัญมาก มันอาจทำให้หงุดหงิดเมื่อออปชันหมดอายุในสถานะ OTM ในวันศุกร์ แล้วหุ้นกลับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในวันจันทร์ถัดไป เนื่องจากเวลามีผลทำให้ออปชันลดค่า ยิ่งเข้าใกล้วันหมดอายุ ออปชัน OTM จะมีมูลค่าน้อยลงเรื่อย ๆ พูดง่าย ๆ คือ ถ้าราคาหุ้นคงที่ทุกวัน ออปชันจะยิ่งมีมูลค่าลดลงเรื่อย ๆ เมื่อใกล้หมดอายุ

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก

FBS ณ สื่อสังคมออนไลน์

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon

ติดต่อเรา

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
Google Play

การซื้อขาย

บริษัท

เกี่ยวกับ FBS

ผลกระทบต่อสังคมของเรา

เอกสารทางกฎหมาย

ข่าวเกี่ยวกับบริษัท

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้

ศูนย์ช่วยเหลือ

โปรแกรมพันธมิตร

เว็บไซต์นี้ดำเนินการโดย FBS Markets Inc. หมายเลขจดทะเบียน 000001317 ซึ่ง FBS Markets Inc. ได้รับการจดทะเบียนโดย Financial Services Commission ภายใต้พระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ฯ 2021 (Securities Industry Act 2021) ใบอนุญาตเลขที่ 000102/31 ที่อยู่สำนักงาน: 9725, Fabers Road Extension, Unit 1, Belize City, Belize

โดย FBS Markets Inc. ไม่ได้ให้บริการทางการเงินแก่ผู้อยู่อาศัยในเขตอำนาจศาลบางแห่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล, สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน, เมียนมาร์

ธุรกรรมการชำระเงินได้รับการจัดการโดย HDC Technologies Ltd.; Registration No. HE 370778; Legal address: Arch. Makariou III & Vyronos, P. Lordos Center, Block B, Office 203, Limassol, Cyprus ที่อยู่เพิ่มเติม: Office 267, Irene Court, Corner Rigenas and 28th October street, Agia Triada, 3035, Limassol, Cyprus

เบอร์ติดต่อ: +357 22 010970 เบอร์ติดต่อเพิ่มเติม: +501 611 0594

สำหรับความร่วมมือ กรุณาติดต่อเราผ่าน [email protected]

คำเตือนเรื่องความเสี่ยง: ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขาย คุณควรเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินและการซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้นอย่างถ่องแท้ และคุณควรตระหนักถึงระดับประสบการณ์ของตนเอง

การคัดลอก การทำสำเนา การเผยแพร่ รวมถึงแหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของเนื้อหาใดๆ จากเว็บไซต์นี้สามารถดำเนินการได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การชี้แนะ หรือการชักชวนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น